Asia update

วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2555

“ร้านหนังสือ...กล่องดวงใจข้างในขบวนการ” โดย "จักรภพ เพ็ญแข"


คอลัมน์ เขียนถึงคนรัก
ตอน “ร้านหนังสือ...กล่องดวงใจข้างในขบวนการ”
โดย จักรภพ เพ็ญแข

ร้านหนังสือมีมนต์เสน่ห์สําหรับคนรักหนังสือ ยากที่จะอธิบายให้ถึงใจว่าทําไม แต่คนรักหนังสือจะหลุดหายเข้าไปได้ง่ายๆ ในร้านหนังสือดีๆ เสมือนว่าโลกหยุดหมุน ปัญหาส่วนตัวในทางโลกถูกทิ้งเอาไว้หน้าร้านจนหมด เหลือแต่มนุษย์ที่ตัดการประดับประดาออกไปจนรู้สึกโปร่งสบาย กระหายแต่ความรู้ ความรัก ความดี และความงาม และมองหนังสือแต่ละปก ข้อความแต่ละบรรทัด ตัวอักษรแต่ละตัวด้วยจิตว่าง จนได้เจอเล่มที่พอใจรักใคร่ ก็คว้ามาสํารวจตรวจสอบอย่างพินิจ สุดท้ายก็ชวนกันไปสนทนาอย่างรื่นรมย์ในที่ที่พึงใจ

พรํ่าพรรณนามาเสียหลายประโยค เพียงเพื่อจะบอกท่านผู้อ่านที่รักว่านี่ล่ะคือเหตุผลข้างต้นของร้านหนังสือใหม่ในบรรณพิภพที่ชั้นสี่ของห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ที่หลายท่านกรุณามาช่วยเปิดและช่วยอุดหนุนและเห็นว่าจะไปชวนพรรคพวกมาเยี่ยมเยียนกันอีก ซึ่งทําให้เราอบอุ่นใจมาก

ร้านหนังสือเล็กๆ ขนาดแค่หนึ่งคูหาแห่งนี้ไม่มีชื่อ ได้แต่ไปยืมชื่อสํานักข่าวร่วมอุดมการณ์มาใช้ เราจึงเรียกกันง่ายๆ ว่า ร้านทีพีนิวส์ (TPNews Bookshop) หรือร้านหนังสือของสํานักข่าวทีพีนิวส์นั่นเอง เหตุผลง่ายๆ มี 2 ข้อคือ ทีพีนิวส์มาจากภาษาสากลว่า TPNews หรือ Thai People's News แปลเป็นไทยได้ตรงใจเราว่า สํานักข่าวประชาชนไทย อันเป็นอุดมการณ์ของเราอยู่แล้ว เราคงไม่ทําอะไรให้ใครอื่นเพราะประชาชนสําคัญที่สุดอยู่แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งคือ สํานักข่าวทีพีนิวส์กับร้านหนังสือทีพีนิวส์จะเดินเคียงไปด้วยกันเสมอ เพื่อบริการข่าวสารอันเป็นข้อมูลระยะสั้นและหนังสืออันเป็นข้อมูลระยะยาวอย่างสมบูรณ์ที่สุดตามสติปัญญาความสามารถของเรา

ผมบอกกับ คุณนุชรินทร์ ต่วนเวช ผู้ที่ได้ร่วมทุกข์สุขทางงานสื่อและงานการเมืองมานับสิบปี และยอมมาเป็นผู้จัดการร้านทีพีนิวส์ ณ บัดนี้ว่า ร้านหนังสือเป็นที่รักของเราก็จริงอยู่ แต่ร้านทีพีนิวส์มิใช่มีไว้สนองความต้องการของเรา หากเราหวังให้เติบโตเป็นเครื่องมือรับใช้มวลชนในขบวนการต่อสู้เพื่อสถาปนาระบอบประชาธิปไตยอันแท้จริงต่อไป คุณนุชรินทร์ ทีมงานอาสาสมัครของเรา และตัวผมเองเชื่อมั่นอย่างไม่มีวิจิกิจฉาว่า ประชาธิปไตยต้องอ่านหนังสือ ประชาธิปไตยต้องไม่คิดอย่างโอหังว่าตัวเองมีความรู้จนไม่ต้องแสวงหาเพิ่มเติม ถึงร้านหนังสือเล็กๆ ของเราจะไม่ใช่อะไรมากมาย แต่ก็เป็นสัญลักษณ์ของแหล่งความรู้และการพัฒนาตัวเองอย่างไม่หยุดยั้งของขบวนการ

ในการต่อสู้ทางการเมือง เราจะคิดถึงแต่อํานาจและการช่วงชิงความได้เปรียบทางการเมืองมิได้ เมื่อฝุ่นหายตลบและจางลงไปแล้ว สิ่งที่เราต้องใคร่ครวญเสียแต่บัดนี้คือประชาชนจะร่วมกันดูแลบ้านเมืองนี้อย่างไร เมื่อมองให้ทะลุโวหารทางการเมืองและก้าวผ่านอารมณ์ชั่วแล่นไปแล้ว เราต้องสะสมทั้งข้อมูล ความรู้ และสร้างภูมิปัญญาขึ้นมาเป็นฐาน มิฉะนั้นเราจะถูกยึดอํานาจคืนจากผู้ชํานาญการทั้งหลาย (technocrats) ในฝ่ายตรงข้ามและประชาชนก็จะถูกเหยียดหยามว่า "ไม่พร้อม" เสมอไป ไม่ต่างอะไรจากคณะราษฎร์ที่ถูกโจมตีด้วยวาทกรรมชิงสุกก่อนห่ามมาตลอด วันนี้บรรพบุรุษประชาธิปไตยทําให้เราเห็นแล้วว่าเราต้องพัฒนาสมองของเราก่อนจะคิดพัฒนาประเทศชาติบ้านเมือง เพื่อความเป็นเจ้าของอํานาจที่สมบูรณ์และยั่งยืน อย่าลืมเป็นอันขาดว่าเรากําลังต่อสู้กับผู้มีอํานาจเหนือองค์ความรู้เก่าๆ ในสังคมไทย เพราะเขามีอํานาจมากและมีมานานจน "ปัญญาชน" ต่างสยบยอมอยู่แทบเท้าของเขา และกลับเอา "ความรู้" มาทิ่มแทงประชาชนผู้มิใช่อภิสิทธิ์ชนจน "ความรู้" กลายเป็นเครื่องมือกดขี่ที่ทรงประสิทธิภาพอีกชนิดหนึ่งไป เราจึงต้องฟื้นอํานาจและสิทธิโดยธรรมชาติของเราด้วยการพัฒนาฐานความรู้ของประชาชนและเพื่อประชาชนเอง เลิกเอาของสําเร็จรูปมาใช้เหยียดหยามกันเองว่าใครสูงใครต่ำตามเงื่อนของสถาบันและหลักสูตรต่างๆ (ซึ่งเป็นของเขาทั้งนั้น) เสียทีเถิด

วันเสาร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ.2555 ร้านทีพีนิวส์จึงเกิดขึ้นเพื่อมนุษย์ที่แท้ทุกคน ถึงเวลาที่เราจะหยุดค่านิยมของผู้มีการศึกษาแบบจอมปลอมและเริ่มสร้างความรู้เท่าทันขึ้นมาเป็นอาวุธทางปัญญาของเรา ยิ่งครวญครํ่าว่า "เรียนมาน้อย" ยิ่งต้องแสวงหาความรู้จากหนังสือ เว็บไซต์ ผู้ที่มีความรู้มากกว่าเรา เป็นเท่าทวีคูณ ยิ่งลําบากยากจน กระเสือกกระสนต่อสู้ ยิ่งต้องหาโอกาสเพิ่มเครื่องมือทางปัญญาของตนเองมากกว่าคนที่เขาเกิดมาได้เปรียบ

ในร้านนี้มีหนังสือหลายเล่มที่ครั้งหนึ่ง "ต้องห้าม" และเคยถูกยึดถูกนําไปทําลายมาแล้วมากต่อมาก โดยเฉพาะในช่วงหลังการสังหารหมู่ประชาชนเมื่อ 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ยิ่งรู้ว่าเล่มไหนมีอิทธานุภาพขนาดนั้น เราก็ยิ่งได้ความรู้ว่าผู้มีอํานาจยิ่งใหญ่ในบ้านนี้เมืองนี้เขากลัวประชาชนจะรู้อะไร ความตาสว่างในปัจจุบันก็จะเพิ่มขึ้นมาอย่างประมาณมิได้

ก่อนจะทิ้งท้ายให้ท่านได้เห็นบางปกหนังสือและบรรยากาศวันที่พี่น้องของเรามาร่วมเปิดร้านทีพีนิวส์ ผมขอกราบเรียนเชิญทุกท่านด้วยความเคารพให้มาเยี่ยมเยียนกันที่ร้านบ้าง ซื้อไม่ซื้อไม่ใช่ประเด็นหลักของเรื่องเลย ขอให้มาพบหน้าค่าตาและแสดงตนว่าเป็นผู้ร่วมอุดมการณ์กันอยู่ เท่านั้นก็เป็นการเพียงพอ ใครเป็นคนทำหนังสือ อยากนําผลงานตัวเองมาวางที่ร้าน ก็แวะมาบอกกล่าวกันอย่างญาติพี่น้องได้เช่นกัน ใครไม่ว่างจะต่อสายมาหากันก่อนก็หาขัดไม่ ที่หมายเลข 085-5049944 และอีเมล tpnews2012@gmail.com พร้อมทักทายท่านอยู่ทุกเวลา

ขอกราบขอบพระคุณนักคิด นักเขียน เจ้าของร้านและแผงหนังสือทั้งในอดีตและปัจจุบันทุกท่านและทุกกิจการที่นําทางพวกเรามาจนถึงหัวโค้งที่สําคัญของบ้านเมืองในวันนี้.

*******************************************************************
ที่มา : Red Power ฉบับที่ 29

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น