Asia update

วันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2555

พวงทอง ภวัครพันธุ์ ชำแหละรายงาน"คอป."



สัมภาษณ์พิเศษ


"คอป.เน้นที่จะหยิบยกเรื่องชายชุดดำมาพูด มองง่ายๆ เลยคือต้องการทำลายความชอบธรรมการชุมนุมของคนเสื้อแดง"

********************************************************

กรณีคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) แถลงบทสรุปเหตุการณ์พฤษภาเลือด 2553

นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

โดยเฉพาะการระบุในรายงานฉบับสมบูรณ์ของคอป. ถึงการปรากฏตัวของชายชุดดำในหลายเหตุการณ์ว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มนปช. เกี่ยวพันใกล้ชิดกับ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ เสธ.แดง ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก

นางพวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ผู้ประสานศูนย์ข้อมูลประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์สลายการชุมนุมเดือนเม.ย.-พ.ค.2553 (ศปช.)

มองต่างมุมในประเด็นดังกล่าว พร้อมนำผลการศึกษาค้นคว้าของศปช. มาประกอบการอธิบาย

จุดอ่อน-จุดแข็งรายงานของคอป.

รายงานสรุปของคอป.มี 300 กว่าหน้า แต่ที่วิเคราะห์เรื่องความรุนแรงมีเพียง 100 กว่าหน้า สิ่งที่คอป.พยายามนำเสนอ เป็นเรื่องของชายชุดดำที่มีความสำคัญกับกลุ่มนปช. โดยเน้นว่าปรากฏตัวอยู่แทบทุกจุดทุกสถานที่ที่มีความรุนแรงตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.-19 พ.ค.53

การพูดแบบนี้แล้วพยายามโยงให้เห็นความสัมพันธ์กับนปช. เป็นนัยยะที่กำลังจะบอกว่าการชุมนุมของนปช.นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม ไม่เป็นสันติวิธี รัฐจึงมีสิทธิอันชอบธรรมใช้กำลังสลายการชุมนุมได้

นอกจากนี้ยังพยายามอธิบายการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อตอบโต้ชายชุดดำด้วย แต่ตลอดรายงานไม่มีการกล่าวชัดเจนเลยว่า มีเจ้าหน้าที่รัฐใช้กำลังเกินกว่าเหตุในกรณีไหนบ้าง

ไม่มีการวิจารณ์ว่าการพยายามควบคุมฝูงชนด้วยการขนอาวุธหนัก ใช้กระสุน 1-2 แสนนัด ใช้กำลังทหารมากมายเป็นสิ่งที่เหมาะสมถูกต้องหรือไม่

ไม่มีการวิจารณ์ว่าเป้าหมายที่แท้จริงของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพียงเพื่อขอคืนพื้นที่ หรือเพื่อต้องการสลายกระบวน การของคนเสื้อแดงกันแน่

ขณะเดียวกันคอป.มีรูปแบบวิธีการเขียนที่ชัดเจนคือ เริ่มด้วยการอธิบายความรุนแรงในทุกจุด โดยมักเริ่มจากการย้ำก่อนว่า ศอฉ.ออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามขั้นตอนการสลายการชุมนุมอย่างเคร่งครัด

การใช้กระสุนจริงกระทำได้ใน 3 กรณีเท่านั้นคือ ยิงขึ้นฟ้า ยิงเพื่อขู่ และยิงเพื่อป้องกันตัวเองในกรณีที่พบว่าผู้ชุมนุมมีอาวุธร้ายแรง ซึ่งอาจส่งผลต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่

จากนั้นจะตามด้วยว่า ก่อนเกิดเหตุความรุนแรง มีผู้เห็นชายชุดดำอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมอาวุธสงครามในทุกสถานที่ ไม่ว่าสี่แยกคอกวัว วัดปทุมวนาราม สวนลุมฯ และบ่อนไก่ ฯลฯ

การอธิบายลักษณะนี้ คอป.พยายามช่วยสร้างเกราะกำบังให้ผู้นำรัฐบาลและผู้นำศอฉ.ขณะนั้นว่า ได้กำชับแล้วว่าให้ใช้อาวุธอย่างถูกต้องตามขั้นตอน แต่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการไม่ได้ทำตามคำสั่ง

อย่างไรก็ตาม คอป.ไม่สามารถทำให้เห็นได้ว่า ทำไมเจ้าหน้าที่จึงไม่จับกุมหรือว่ายิงชายชุดดำ แต่ใช้วิธีการยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ไม่มีอาวุธ หรือมีอาวุธแต่เป็นประเภทไม่ร้ายแรงพอที่จะทำร้าย เจ้าหน้าที่ในระยะใกล้ได้

คำถามคือทำไมจึงยิงใส่คนเหล่านี้ ทำไมจึงยิงใส่น.ส.กมนเกด อัคฮาด พยาบาลอาสาที่วัดปทุมฯ มีอะไรที่บอกว่า น.ส.กมนเกด เกี่ยวข้องกับชายชุดดำ ซึ่งคอป.ก็ไม่ได้อธิบาย

ส่วนจุดแข็งของคอป.อยู่ที่การใช้ข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญวิถีกระสุน

การตายทุกจุดของผู้ชุมนุมเท่าที่อ่านเจอพบว่า แนวกระสุนมาจากด้านที่มีแนวทหารตั้งอยู่ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ศปช.ไม่มี เพราะไม่มีเงินจ้างผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาดูวิถีกระสุนได้

จึงอยากเรียกร้องให้คอป.เน้นย้ำประเด็นนี้ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้มาทำให้ชัดเจนว่า แม้มีชายชุดดำปรากฏขึ้นจริง แต่การตายที่เกิดขึ้นกับผู้ชุมนุม วิถีกระสุน มาจากจุดที่มีกองกำลังของทหารตั้งอยู่

รายงานของคอป.สมบูรณ์รอบด้านหรือไม่

ผลสรุปที่คอป.หยิบยกมาเผยแพร่เป็นการให้ความสำคัญกับชายชุดดำอย่างมาก พยายามโยงการตายเมื่อ 10 เม.ย.53 ที่สี่แยกคอกวัวทั้งหมดว่าเป็นฝีมือของชายชุดดำ แม้จะพบว่าวิถีกระสุนที่ประชาชนถูกยิงมาจากทหารก็ตาม

คอป.ควรไปดูรายละเอียดว่า ที่สี่แยกคอกวัวและหน้าโรงเรียนสตรีวิทยา ประชาชนถูกยิงเสียชีวิตก่อนที่ชายชุดดำจะปรากฏตัวขึ้น ซึ่งคอป.ไม่ได้พูดประเด็นนี้ให้ชัดเจนเลย แต่กลับพูดในลักษณะเห็นอกเห็นใจทหารในขณะนั้น

เช่น ที่บอกว่าเมื่อเห็นผู้บังคับบัญชาถูกยิง ทำให้ทหารระดับล่างระส่ำระสายไร้การควบคุม ยิงอย่างสับสนเข้าใส่ผู้ชุมนุมทำให้ผู้ชุมนุมเสียชีวิตจำนวนมาก

คอป.ต้องไปดูว่าผู้ชุมนุมที่เสียชีวิตจำนวนมาก เสียชีวิตก่อนที่ พ.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม จะเสียชีวิต และวิถีกระสุนมาจากฝั่งทหาร ไม่ควรโยนความผิดทั้งหมดให้ชายชุดดำ

เราไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่มีชายชุดดำ โดยเฉพาะคืนวันที่ 10 เม.ย.53 แต่ต้องแยกแยะว่าความตายอันไหนเกิดขึ้นจากฝีมือชายชุดดำ และความตายอันไหนเกิดขึ้นจากฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ

และคอป.ก็ไม่มีการวิจารณ์ว่า ปฏิบัติการกระชับพื้นที่และขอคืนพื้นที่ถูกต้องหรือผิดพลาด เป็นการใช้กำลังเกินกว่าเหตุละเมิดสิทธิของพลเรือน

คอป.มีข้อมูลความรุนแรงที่เกิดจากการดำเนินการของฝ่ายรัฐอยู่มาก แต่กลับไม่พยายามเน้นย้ำอย่างเพียงพอ จุดนี้สร้างความไม่พอใจให้กับผู้ชุมนุมที่ได้รับผลกระทบ พวกเขาเป็นเหยื่อจากการใช้ความรุนแรงอย่างชัดเจน

น่าเสียดายที่ข้อมูลดังกล่าวจะช่วยสร้างภาพความสมดุลกัน แต่กลับไปเน้นเรื่องชายชุดดำโดยไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าภาพชายชุดดำที่ปรากฏในทุกพื้นที่นั้น เป็นผู้สร้างความรุนแรง

คำให้การส่วนใหญ่เรื่องชายชุดดำมาจากเจ้าหน้าที่ทหาร โดยที่ไม่มีหลักฐานอะไรมากกว่านั้น ที่น่าแปลกใจมากคือคำสัมภาษณ์ที่ส่วนใหญ่ไม่มีการสัมภาษณ์ผู้ชุมนุมเลย รวมถึงครอบครัวของคนที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

เป็นไปได้หรือไม่ว่า มีกรอบอยู่แล้วว่าจะเขียนอย่างไรแล้วนำข้อมูลไปใส่ทีหลัง

บทสรุปของคอป.ไม่เน้นข้อมูลคนเจ็บ-คนตาย

กรณีผู้เสียชีวิต ดิฉันอยากเห็นข้อมูลของคอป.มาก เพราะของ ศปช. วิเคราะห์ไว้ชัดเจนว่าลักษณะการตายเป็นอย่างไรส่อเจตนาของผู้ยิงว่าต้องการป้องกันตัวหรือต้องการเอาชีวิต

คอป.มีข้อมูลของวิถีกระสุน ลักษณะการตายเกือบทั้งหมด และผลการชันสูตรพลิกศพ ข้อมูลเหล่านี้กลับไม่ปรากฏในรายงาน จึงอยากเรียกร้องให้สื่อมวลชนและญาติผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ขอให้คอป.เปิดเผยข้อมูลนี้ออกมา

ทำไมคอป.จึงไม่เปิดเผย

เพราะข้อมูลดังกล่าวจะไปบดบังข้อมูลเรื่องชายชุดดำที่คอป.ให้ความสำคัญ การที่คอป.เน้นที่จะหยิบยกเรื่องชายชุดดำมาพูด มองง่ายๆ เลยคือต้องการทำลายความชอบธรรมการชุมนุมของคนเสื้อแดง

มีการระบุชัดว่าชายชุดดำเชื่อมโยงกับเสธ.แดง

เมื่อดูรายงานคอป.ที่พยายามโยงความเกี่ยวข้องระหว่างชายชุดดำกับพล.ต.ขัตติยะ คิดว่ายังค่อนข้างหลวมมาก

ยกตัวอย่างที่มีคนพบพล.ต.ขัตติยะ บริเวณถนนราชดำเนิน เวลาประมาณ 5 โมงเย็น และโยงว่ามีชายชุดดำบางคนมีความสนิทกับพล.ต.ขัตติยะ ต้องบอกให้ได้ว่าคนนั้นคือใคร ต้องเอาตัวมาแสดง

เหตุการณ์สำคัญที่ขาดหายไป

ประชาชนที่ถูกจับกุมหลังเหตุการณ์พ.ค.53 ซึ่งไม่เห็นข้อมูลนี้แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นเนื่องจากผู้ชุมนุมจำนวนมากทั้งในกทม. และต่างจังหวัด ถูกจับกุมหลายพันคน มีการดำเนินคดีขึ้นศาลหลายร้อยราย

ซึ่งการจับกุมเหล่านี้ ด้านหนึ่งชี้ว่ากระบวนการยุติธรรมกับผู้ชุมนุมได้เดินไปแล้ว หลายคนถูกตัดสินจำคุก หลายคนถูกขังฟรี แต่ในฝ่ายของผู้ที่ใช้กำลังปราบปรามประชาชนยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีเลย

และหลังการคุมขังประชาชนยังเป็นสาเหตุของความโกรธแค้นที่ผู้ชุมนุมถูกกระทำด้วยการสลายการชุมนุม

ผลสรุปที่ออกมารู้สึกอย่างไร

ไม่ได้คาดหวังกับคอป.มาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าจะออกมาลักษณะนี้ ดิฉันรู้จักนายสมชาย หอมลออ กรรมการคอป. มานาน ยังคิดว่าหลักการสิทธิมนุษยชนน่าจะเป็นส่วนที่ค้ำคอป.อยู่บ้าง โดยเฉพาะสิทธิในชีวิตของประชาชน

แต่ผลสรุปที่ออกมาเรียกได้ว่าล้มเหลว เห็นได้ชัดจากปฏิกิริยาของคนที่ไม่ยอมรับข้อสรุปของคอป.อยู่มาก


*************************************************************************************
ที่มา : ข่าวสดออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น